โรงเรียนแห่งความสุข

เสียงร้องเพลงชาติของเด็กประถมจบลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่คุณครูใหญ่จะพูดหน้าเสาธง
“สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน ครูมีเรื่องดีจะประกาศให้ทุกคนทราบนะคะ นั่นก็คือ ทางโรงเรียนจะจัดให้นักเรียนทุกชั้นได้ดูหนังHDวันละ 1 เรื่องเรื่องละไม่เกินชั่วโมงครึ่งก่อนจะกลับบ้าน โดยเริ่มจากวันจันทร์นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 และ 2 วันอังคารนักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 วันพุธนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 วันพฤหัสนักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 และวันศุกร์จะเป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 ค่ะ อันนี้เป็นความเห็นของทั้งคุณครูและผู้ปกครอง เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการผ่อนคลายค่ะ” จบคำของคุณครูใหญ่ เด็กๆ ก็ร้องดีใจกันยกใหญ่“เอาละค่ะ วันนี้วันจันทร์ก็ขอให้คุณครูประจำชั้นและนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 และ 2 เตรียมตัวกันด้วยนะคะ แต่อย่าตื่นเต้นกันมากจนไม่มีกะจิตกะใจเรียนหนังสือนะคะ แยกย้ายกันได้แล้วค่ะ” ครูใหญ่ว่าพลางยิ้ม
เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็ก หลังจากได้ยินคำบอกกล่าวของคุณครูใหญ่ก็ต่างพูดคุยกันไปตลอดทางจนคุณครูประจำชั้นจะต้องปราม แต่ไม่วายจะมีเสียงเล็ดลอดพูดถึงหนังกันเป็นระยะๆ และทั้งวัน กระทั่ง…
ถึงเวลาที่นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 และ 2 รอคอย แล้วเนื่องด้วยเป็นชั้นเรียนที่เด็กที่สุด เรื่องความวุ่นจึงหนีไม่พ้น เพราะเด็กๆ พากันร้องเฮอย่างดีใจ ตั้งแต่หนังเริ่มฉายแถมเวลาดูก็พูดคุยกันอื้ออึง ซึ่งคุณครูประจำชั้นและครูที่ได้รับหน้าที่ดูแลก็มีอาการปวดหัวกันเลย แต่ครูทุกคนก็พอใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสุขเล็กๆ นี้
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์ในช่วงแรกของการเริ่มดูหนัง สีหน้าของทุกคนในโรงเรียนอิ่มเอิบและสดชื่นมากขึ้น ซึ่งคุณครูใหญ่ดีใจที่ได้ทำสิ่งที่ดีนี้ แล้วอาทิตย์ต่อมา คุณครูใหญ่ก็พูดหน้าเสาธงว่า…
“ครูดีใจที่นักเรียนทุกคนมีความสุขสดชื่นและพอใจกับกิจกรรมนี้ของโรงเรียน แต่ครูก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า กิจกรรมดูหนังจะถูกจัดขึ้นเป็นช่วงๆ และในช่วงใกล้สอบกับช่วงสอบไม่ว่าจะสอบย่อยหรือสอบใหญ่กิจกรรมนี้จะถูกงดโดยปริยายนะคะ เพราะเหตุผลที่ครูจัดให้มีการดูหนังก็เพื่ออยากจะให้นักเรียนผ่อนคลาย ไม่ได้ต้องการให้เน้นการดูหนังมากกว่าการเรียน อีกอย่างครูอยากจะให้นักเรียนรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น เมื่อถึงเวลาเรียนก็ต้องเรียน เมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็ต้องพักผ่อนนะคะ สำหรับวันนี้ครูก็จัดให้ดูหนังอีกหนึ่งอาทิตย์ แล้วอาทิตย์หน้าจะงดค่ะ เพราะเป็นช่วงใกล้สอบ หลังสอบเสร็จจะเริ่มจัดให้ดูหนังอีกที หวังว่า นักเรียนและคุณครูทุกคนคงจะเข้าใจตามนี้นะคะ” ครูใหญ่จบการพูดเชิงอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อฟังจบ นักเรียนบางคนบ้างก็พูดว่าไม่อยากจะให้งดการดูหนัง บางคนบ้างก็แย้งว่าทำตามที่คุณใหญ่บอกนั้นดีแล้ว ถึงแม้จะมีหลากหลายความเห็นอันมาจากความคิดส่วนตัว แต่ในเมื่อครูใหญ่ได้ชี้แจงทุกอย่างแล้ว ทุกคนในโรงเรียนควรทำตาม เพื่อโรงเรียนแห่งนี้จะได้เป็นโรงเรียนแห่งความสุขแบบที่ถูกที่ควร